วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ตัวอย่างสำนวนไทย










"สำนวนไทย มีจำนวนมากมายสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ  สำนวนไทย มีลักษณะ  ดังนี้"
   1.  ถ้อยคำที่ใช้เป็นสำนวนอาจเป็นเพียงคำเดียว  หรือประกอบด้วยถ้อยคำที่เรียงกันตั้งแต่  2  คำขึ้นไปซึ่งบาง สำนวนเป็นกลุ่มคำ   บางสำนวนเป็นประโยค  ซึ่งมีทั้งความเดียวและประโยคความซ้อน

   2. สำนวนไทยบางสำนวนมีทั้งมีเสียงสัมผัสและไม่มีเสียงสัมผัส   ที่มีเสียงสัมผัส  มีเสียงสัมผัสในและสัมผัสนอก  จะมีตั้งแต่ 4 ถึง 12  คำ  ส่วนที่ไม่มีเสียงสัมผัส  จะมีตั้งแต่ 2  ถึง 8  คำ  บางสำนวนมีการใช้คำซ้ำและเล่นคำ

    3. เนื้อความของสำนวนมีทั้งที่มีเนื้อความตอนเดียว  และมีเนื้อความสองตอนขึ้นไป

    4. เนื้อหาของสำนวนจะมีหลากหลาย  ดังนี้
           4.1 เนื้อหาเกี่ยวกับรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ และกิริยาท่าทาง
           4.2 เนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะนิสัย  กิริยาอาการและพฤติกรรม
           4.3 เนื้อหาเกี่ยวกับจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก
           4.4 เนื้อหาเกี่ยวกับการพูด
           4.5 เนื้อหาเกี่ยวกับความรัก  การมีคู่  และการครองเรือน
           4.6 เนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาหาความรู้ และการอบรมสั่งสอน
           4.7 เนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นอยู่ อาชีพ การทำงาน การทำมาหากิน และการดำรงชีวิต
           4.8 เนื้อหาเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันในสังคม การเมือง การปกครอง
           4.9 เนื้อหาเกี่ยวกับคุณธรรม การเตือนสติและคำสอนต่าง ๆ
           4.10 เนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์  สถานการณ์ เวลา  ระยะทางและสถานที่

     5. เป็นถ้อยคำสละสลวยที่ใช้แทนคำพูดธรรมดา  เป็นคำแปลก ๆ โดยอาจเทียบเคียงมาจากการกระทำบางอย่าง  เป็นคำกล่าวที่มีความหมายโดยนัย  เป็นคำที่มาจากปรากฏการธรรมชาติ นิทาน ชาดก หรือวรรณคดี  ใช้ถ้อยคำน้อย แต่มีเนื้อความมาก  และเป็นคำที่มีความไพเราะ ฯลฯ




"ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างสำนวนไทยที่เป็นที่นิยมใช้โดยทั่วไป"















                               
                                                  



คุณค่าของสำนวนไทย



คุณค่าของสำนวนไทย



คุณค่าของสำนวนไทย  

เป็นเครื่องอบรมสั่งสอนและชี้แนะให้เป็นคนดี 
 - ในด้านความรัก : คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายน้ำพึ่งเสือพึ่งป่า
 - ในด้านการศึกษาอบรม : ฝนทั่งให้เป็นเข็มสิบรู้ไม่เท่าชำนาญ
 - ในการพูดจา : พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย ,พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง


สำนวนไทยช่วยสะท้อนให้เห็นความคิด ความเชื่อในสังคมไทย 
 -ความเคารพนอบน้อมผู้ใหญ่ เช่น เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด
 - ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องกรรม เช่น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว 
 - ความเชื่อเกี่ยวกับการปกครอง เช่น บ้านเมืองมีขื่อมีแป
                                    -ความเชื่อเกี่ยวกับเกียรติยศชื่อเสียง เช่น ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ

สะท้อนให้เห็นถึงภาวะความเป็นอยู่ 
เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการครองชีพ เช่น เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย 
เกี่ยวกับการทำมาหากิน เช่น น้ำขึ้นให้รีบตัก

.ชี้ให้เห็นว่าคนไทยรักธรรมชาติ
ธรรมชาติกับการดำรงค์ชีวิตของคนไทยเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก จึงได้นำเอาลักษณะธรรมชาติของสัตว์ ต้นไม้ ฯลฯ มาตั้งเป็นสุภาษิต คำพังเพย และสำนวนต่างๆ

.ใช้ภาษาได้ถูกต้อง
การศึกษาสำนวนต่างๆ ช่วยทำให้เราใช้ภาษาได้ถูกต้องและสละสลวย ไม่ต้องใช้คำพูดที่เยิ่นเย้อยืดยาว แต่สามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้อ่านได้มาก นอกจากนั้นการศึกษาสุภาษิต คำพังเพย และสำนวนของภาคต่างๆ ทำให้เราได้เรียนรู้ภาษาถิ่นไปด้วยในตัว


 ช่วยสืบทอดวัฒนธรรม







ที่มาของสำนวนไทย


     
" วันนี้เราจะมาดูกันว่าสำนวนไทยนั้นมีที่มาจากอะไรกันได้บ้าง ซึ่งสำนวนไทยมีจำนวนมากมายและมีที่มาที่หลากหลายประเภท ผมได้รวบรวมประเภทที่มาและตัวอย่างไว้ให้ในบทความนี้"


1. มีที่มาจากธรรมชาติ

เป็นสำนวนที่เทียบเคียงมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ   ดังตัวอย่าง
สำนวน
ที่มา
ความหมาย
กาฝาก
 ต้นไม้ที่เกาะเบียดเบียนอาศัยอาหารจากต้นใหญ่ เลี้ยงตัวแฝงกินอยู่กับผู้อื่นโดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้
ก่อหวอด
 การวางไข่ของปลา  ปลาจะพ่นน้ำเป็นฟองเรียกว่า   หวอด  เพื่อให้ไข่ปลาอาศัยจน เป็นลูกปลาเริ่มจับกลุ่มเพื่อนทำการ อย่างใดอย่าง หนึ่ง
เข้าไต้เข้าไฟเวลาใกล้ค่ำต้องจุดไต้ ให้แสงสว่างเวลาพลบค่ำ
คลื่นกระทบฝั่ง
ทะเลมีคลื่นวิ่งเข้าหาฝั่งตลอดเวลา
เรื่องราวที่ครึกโครมขึ้นแล้วกลับเงียบ หายไป
คืบก็ทะเล  ศอกก็ทะเลแสดงถึงความน่ากลัวของทะเลสอนให้อย่าประมาทเพราะทะเล มีอันตรายทุกเมื่อ
ต้นไม้ตายเพราะลูกธรรมชาติของต้นไม้บางชนิดเมื่อออกผลแล้วจะตาย พ่อแม่ยอมเสียสละแม้ชีวิตเพื่อลูก
ติดร่างแหเวลาจับปลาด้วยแห ปลาน้อยใหญ่ก็จะติดแหมาด้วย พลอยรับเคราะห์ไปด้วย
ตื่นแต่ไก่โห่ธรรมชาติของไก่ย่อมขัน ในเวลาเช้ามืดเสมอ ตื่นแต่เช้ามืด
ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำฟ้าอยู่สูงแผ่นดินอยู่ที่ต่ำ คนมีทั้งที่สูงและที่ต่ำ
สนตะพายการสนตะพายที่จมูกวัวควาย  เพื่อชักจูงไปได้สะดวก ยอมให้ชักจูง

2. ที่มาจากวัฒนธรรมการดำรงชีวิต

      เช่น  ปัจจัยสี่  อาหาร  เครื่องนุ่งห่ม  ที่อยู่อาศัย  พาหนะ  เป็นต้น  ดังตัวอย่าง
สำนวน
ที่มา
ความหมาย
ก้นหม้อไม่ทันดำการหุงข้าวกว่าก้นหม้อจะติดเขม่าดำกินเวลานาน เลิกกันง่าย
ชุบมือเปิบการกินข้าวด้วยมือ  ก่อนจะกิน อาหารจะเอา มือลงชุบน้ำ เพื่อล้างมือให้สะอาด และไม่ให้ข้าว ติดมือ คนที่ไม่ช่วยทำพอถึงเวลา มารับประทาน คนที่ฉวยประโยชน์จากคนอื่นโดยไม่ลงทุน ลงแรง
นุ่งเจียมห่มเจียมการแต่งกาย แต่งตัวพอสมกับฐานะ
จุดไต้ตำตอเวลาพลบค่ำจะจุดไต้เป็นเครื่องตามไฟ พูดหรือทำสิ่งใดกับเจ้าของเรื่อง โดยผู้นั้น ไม่รู้ตัว
บ้านเมืองมีขื่อมีแปเรือนต้องมีขื่อสำหรับยึดหัวเสาเรือนตามขวาง  ส่วนแปเป็นไม้ยึดหัวเสาตามยาว บ้านเมืองมีกฎหมายคุ้มครอง
ติเรือทั้งโกลนการทำเรือสมัยโบราณ จะเหลาซุงทั้งต้นให้ เป็นรูปร่างก่อน เรียกว่า โกลนตำหนิสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จ

3.  ที่มาจากวัฒนธรรมทางสังคม

เช่น  การทำมาหากิน  การกระทำ  ประเพณี  การละเล่น  การศึกษา  การเมืองการปกครอง  เป็นต้น  ดังตัวอย่าง
สำนวน
ที่มา
ความหมาย
ไกลปืนเที่ยงในรัชกาลที่ 5 เริ่มยิงปืนใหญ่เวลา 12.00 นาฬิกาในพระนคร ให้ได้รู้กันว่าเป็นเวลาเที่ยงคนที่อยู่ไกลออกไป คนบ้านนอก
ทำนาบนหลังคนอาชีพการทำนาการแสวงหาผลประโยชน์ ใส่ตนโดยขูดรีดผู้อื่น
ฝังรก  ฝังรากการทำขวัญทารกที่เกิดได้สามวัน  เอารกกับ มะพร้าวตั้งถิ่นฐานประจำ
คนตายขายคนเป็นการจัดงานศพการจัดงานศพใหญ่โตทั้ง ๆ ที่ลูกหลานยากจน  ต้องไปกู้เงินมาทำศพ หลังงานศพ ต้องใช้หนี้ ได้รับ
ความลำบาก
ไม่ดูตาม้าตาเรือการเล่นหมากรุกไม่พิจารณาให้รอบคอบ
ความรู้ท่วมหัว  เอาตัวไม่รอดการศึกษามีความรู้มากแต่ไม่รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์
เจ้าถ้อยหมอความโวหารของนักกฎหมาย  หรือหมอความ(ทนายความ)ผู้ที่ใช้โวหารพลิกแพลงเช่นเดียวกับผู้ที่เป็น
หมอความ(ทนายความ)
นอนหลับทับสิทธิ์การเมืองการปกครองไม่ไปใช้สิทธิ์ที่ตนเองมีอยู่เมื่อถึงคราวที่จะใช้
สู้จนเย็บตาการชนไก่  ไก่ถูกแทงจนหน้าตาฉีกก็เย็บ แล้วให้สู้อีกสู้จนถึงที่สุด สู้อย่างไม่ย่อท้อ สู้ไม่มีถอย

4. ที่มาจากวัฒนธรรมทางจิตใจ

เช่น ทางศาสนาและความเชื่อ  ดังตัวอย่าง
สำนวน
ที่มา
ความหมาย
กรวดน้ำคว่ำขันเวลาไปทำบุญแล้วกรวดน้ำอุทิศ ส่วนกุศลตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย
ผีซ้ำด้ำพลอยการนับถือผีบรรพบุรุษถูกซ้ำเติมเมื่อพลาดพลั้งลงหรือ
เมื่อคราวเคราะห์ร้าย
ปิดทองหลังพระทำเนียมการปิดทองคำเปลว
ที่พระพุทธรูป
ทำความดีแต่ไม่ได้รับการ
ยกย่องเพราะไม่มีใครเห็นคุณค่า
ขนทรายเข้าวัดการทำบุญก่อพระเจดีย์ทราย
ที่วัด
การหาประโยชน์ให้ส่วนรวม
บุญทำกรรมแต่งการทำบุญ สร้างกรรมบุญหรือบาปที่ทำไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุให้รูปร่าง หน้าตาหรือวิถีชีวิตของคนเราในชาตินี้ สวยงาม ดี ชั่ว

5.ที่มาจากวัฒนธรรมทางศิลปะ

เช่น  การแสดง  ดนตรี  เป็นต้น  ดังตัวอย่าง
สำนวน
ที่มา
ความหมาย
ประสมโรงการตั้งคณะละครโดยเอาตัวละครจากที่ต่าง ๆ มารวมกันเป็นโรงพลอยเข้าร่วมเป็นพวกด้วย
ชักใยการเล่นหุ่นและหนังตะลุงบงการอยู่เบื้องหลัง
นอกจอการเล่นหนังใหญ่ดีแต่เก่งอยู่ข้างนอก
คลุกคลีตีโมงการเล่นดนตรีปี่พาทย์คลุกคลีพัวพันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
โจ๋งครึ่มสำเนียงการตีตะโพนการกระทำสิ่งใดอย่างเปิดเผย

6.ที่มาจากวัฒนธรรมทางภาษา  วรรณคดี  ตำนาน  นิทาน  ประวัติศาสตร์ดังตัวอย่าง

สำนวน
ที่มา
ความหมาย
งอมพระรามเรื่อง รามเกียรติ์ พระรามต้องผจญกับความทุกข์ยาก ลำบากต่าง ๆ นานา มากมายมีความทุกข์ลำบากเต็มที่
ชักแม่น้ำทั้งห้าเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ชูชกกล่าวขอสองกุมาร ต่อพระเวสสันดรพูดจาหว่านล้อมยกยอบุญคุณ
เพื่อขอสิ่งที่ประสงค์
เนื้อถ้อยกระทงความการใช้ภาษาเนื้อความที่แยกแยะออก เป็นข้อ ๆ  อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
 ที่เท่าแมวดิ้นตายนิทานเรื่องศรีธนญชัย  ที่ขอพระราชทานที่เท่า แมวดิ้นตาย โดยเอาแมวมาผูกและ ใช้ไม้ตีแมวให้วิ่ง ไปมาจนแมวตาย  ทำให้ได้ที่ดินจำนวนมากมีที่ดินที่เนื้อที่น้อยเพียง ตัวแมว ดิ้นตาย
ปล่อยม้าอุปการเรื่องรามเกียรติ์ พระรามทำพิธีปล่อยม้าอุปการ  แล้วให้ หนุมานตามไป  ผู้ใดบังอาจจับม้าขี่ ก็จะถูกปราบการกระทำที่ใช้คนออกไปเที่ยว พาลหาเรื่องหรือทำให้เกิดเรื่อง  ขึ้นเพื่อ ประโยชน์ตนเอง
ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองวรรณคดีเรื่องอิเหนา ท้าว กะหมังกุหนิง ยกทัพมาประชิดเมืองดาหาเพื่อชิงนางบุษบา  อิเหนาก็มาช่วยปราบศึกและเมื่อได้พบ นางบุษบา ก็ลุ่มหลงออกอุบายแต่งทัพปลอม เป็นทัพกะหมังกุหนิงเข้าเผาเมือง แล้วปลอมเป็นจรกาพา นางบุษบา ไปซ่อนไว้ในถ้ำตำหนิผู้อื่นเรื่องใดแล้วตนก็กลับทำในเรื่องนั้นเสียเอง
 "หากนักเรียนต้องการศึกษาเพิ่มเติมก็เข้าไปที่เว็บไซต์นี้ได้นะคะ"   

  เว็บไซต์นี้จะมีประวัติและที่มาของสำนวนไทยให้นักเรียนได้ศึกษาเพิ่มเติมได้นะคะ


ความหมายของสำนวนไทย






     
"
ก่อนเข้าสู่บทเรียน คุณครูมีเพลงสนุกๆ เกี่ยวกับสำนวนไทยมาให้ฟังและฝึกร้องไปพร้อมๆ กันนะคะ"





"ฟังเพลงจบแล้วมาเริ่มเรียนรู้ความหมายของสำนวนไทยกันเลยนะคะ"

ความหมายของสำนวนไทย

       สำนวนไทย คือถ้อยคำหรือข้อความที่กล่าวสืบต่อกันมาช้านานแล้ว มีความหมายไม่ตรงตามตัวหรือมีความหมายอื่นแฝงอยู่ หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า 
       สำนวน คือถ้อยคำ กลุ่มคำ หรือความที่เรียบเรียงขึ้นในเชิงอุปมาอุปมัยโดยมีนัยแฝงเร้นซ่อนอยู้อย่างลึกซึ้ง แยบคาย เพื่อให้ผู้รับได้ไปตีความ ทำความเข้าใจด้วยตนเองอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งอาจแตกต่างไปความหมายเดิมหรืออาจคล้ายคลึงกับความหมายเดิมก็ได้ สันนิษฐานว่า สำนวนนั้นมีอยู่ในภาษาพูดก่อนที่จะมีภาษาเขียนเกิดขึ้นในสมัยสุโขทัย โดยเมื่อพิจารณาจากข้อความในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงแล้ว ก็พบว่ามีสำนวนไทยปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ เช่น ไพร่ฟ้าหน้าใส หมายถึง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข